Monster Hunter Stories 2 : Wings of Ruin เป็นภาคที่มีนำเสนอการต่อสู้แบบ turn-based หรือ ผลัดกันโจมตี ซึ่งไม่เหมือน MH ภาคก่อนหน้าที่เป็น RPG แบบดั้งเดิม อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญก็คือ การเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ของเกมภาคแยก Stories คือ เราจะได้ร่วมต่อสู้ไปพร้อม ๆ กับ monstie คู่หู อีกทั้งยังสามารถฟักไข่ monstie เพื่อสร้างปาร์ตี้แบบใหม่ ๆ ที่สมบูรณ์แบบ

 

 

สำหรับผู้เล่นที่เพิ่งเริ่มต้นในเกม Monster Hunter Stories 2 อาจจะต้องทำความเข้าใจระบบการต่อสู้ ซึ่งทางเราได้รวบรวมพื้นฐานการต่อสู้มาให้แล้ว ณ ที่นี้

 

ระบบเลือด และ การฟื้นฟู

 

ทั้งตัวผู้เล่น และ monstie คู่หู จะมีหัวใจสามดวงที่แสดงถึงระบบเลือด ทุกครั้งที่ผู้เล่นเสียเลือด จะสูญเสียหัวใจไปหนึ่งดวง และ ถ้าหัวใจหายไปทั้งสามดวงนั่นหมายถึงคุณพ่ายแพ้การต่อสู้ และ ถ้า monstie สูญเสียหัวใจทั้งสามดวงนั่นก็หมายถึงคุณพ่ายแพ้เช่นกัน ดังนั้นผู้เล่นจึงต้องดูแลเหล่าคู่หูเหมือนกับที่ดูแลตัวเอง เมื่อผู้เล่นสูญเสียหัวใจไปทุก ๆ หนึ่งดวง เกจ Kinship Gauge จะชาร์จเร็วขึ้นเล็กน้อย 2-3 เทิร์น เพื่อรับ boost จำนวนมาก

 

ระบบการฟื้นฟูเลือดนั้นมีหลากหลายวิธีด้วยกัน ผู้เล่นสามารถใช้ไอเทมฟื้นฟู, ใช้สกิล “Ride” เมื่อเกจ Kinship Gauge เต็ม นอกจากนี้ยังมีไอเทมที่ช่วยในการฟื้นฟูเลือดอีก แต่หาได้ยากมาก ดังนั้นเราแนะนำให้เก็บ ‘ไอเทมนั้น’ เอาไว้ใช้สำหรับการต่อสู้ที่ดุเดือดจะดีกว่า

 

เมื่ออกจากการต่อสู้มาแล้ว จะสามารถใช้ฟังก์ชัน “Quick Heal” ในการฟื้นเลือดหากผู้เล่นมีโดนัทอยู่ในช่องเก็บของ และ การเยี่ยมชมเมือง/หมู่บ้าน ก็สามารถช่วยฟื้นเลือดได้อย่างสมบูรณ์เช่นกันหากไม่ต้องการใช้ไอเทม และ รู้สึกสิ้นเปลือง

 

ประเภทของการโจมตี และ การต่อสู้แบบตัวต่อตัว

 

ระบบการโจมตีในเกมมีทั้งหมด 3 รูปแบบด้วยกัน พลัง, เทคนิค และ ความเร็ว ซึ่ง ‘พลัง’ ชนะ ‘เทคนิค’ ‘เทคนิค’ ชนะ ‘ความเร็ว’ ‘ความเร็ว’ ชนะ ‘พลัง’ ผู้เล่นสามารถเลือกรูปแบบการต่อสู้ได้ในแต่ละเทิร์น ซึ่งมอนสเตอร์แต่ละตัวที่เผชิญหน้ามักใช้การโจมตีประเภทเดียวกัน และ จะเปลี่ยนไปเมื่อเข้าสถานะ ‘enraged’ ดังนั้นจงแน่ใจว่าเลือกรูปแบบการต่อสู้ที่แข็งแกร่งกว่า การมีมอนสเตอร์ที่เหมาะกับรูปแบบการโจมตีอย่างน้อย 1 ตัวจึงเป็นเรื่องที่ดีสำหรับปาร์ตี้

 

เมื่อผู้เล่นโจมตีมอนสเตอร์ที่พุ่งเป้ามาที่ตัวผู้เล่นเอง จะเข้าสู่ ‘โหมดสู้ตัวต่อตัว’ หากชนะการต่อสู้แบบตัวต่อตัวจะได้รับความเสียหายน้อยลง และ ศัตรูได้รับความเสียหายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบการโจมตีแบบไหนก็ตาม และ ยังช่วยเพิ่มเกจ Kinship Gauge ให้เต็มอีกด้วย อีกทั้งการชนะการต่อสู้ตัวต่อตัวจะทำให้เกิด Double Attack ซึ่งสร้างความเสียหายมากขึ้นไปอีก ยกเลิกการโจมตีของศัตรู และ ช่วยเพิ่มเกจ Kinship Gauge มากขึ้น

 

Monstie และ ระบบ Battle Buddies

 

ผู้เล่นจะมาพร้อมกับหัวหน้า monstie ของตนเองเสมอเมื่อเริ่มการต่อสู้ แต่ผู้เล่นสามารถเปลี่ยน monstie ตัวอื่นที่อยู่ในปาร์ตี้ระหว่างการต่อสู้ได้ monstie จะดูแลการต่อสู้ของตนเอง ซึ่งผู้เล่นสามารถใช้คำสั่งกับ monstie ให้ใช้ทักษะบางอย่างได้โดยการใช้เมนูย่อย ถ้าหากผู้เล่นมีเกจ Kinship Gauge มากพอ

 

ตลอดทั้งเกมผู้เล่นจะพบตัวละครตัวอื่น ๆ ภายในเกมที่มาเข้าร่วมปาร์ตี้ชั่วคราวและช่วยเหลือการต่อสู้ สิ่งนี้เรียกว่า Battle Buddies ซึ่งจะมีหัวใจทั้งหมดสามดวงเช่นเดียวกัน และ ถ้าหากหัวใจของพวกเขาหมดลงนั้นหมายถึงจบการต่อสู้ทันที ถึงแม้ผู้เล่นจะยังมีหัวใจเหลืออยู่ก็ตาม ดังนั้นอย่าลืมดูแลเพื่อน ๆ และ monstie ที่มาช่วยเหลือด้วยล่ะ !

 

ประเภทของอาวุธ

 

อาวุธภายในเกมมีทั้งหมด 3 ประเภทด้วยกัน Slashing, Blunt และ Piercing และ มีอาวุธ 6 ชนิด ที่ผู้เล่นสามารถสวมใส่ได้ ดาบ โล่ และ ดาบใหญ่ จะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรงด้วยการตัด ค้อน และ Hunting Horn จะสร้างความเสียหายรุนแรงด้วยการฟาดทุบ ธนู และ ปืนยาว จะสร้างความเสียหายแบบเจาะเกราะ ซึ่งผู้เล่นสามารถติดอาวุธให้กับตัวละครได้มากถึง 3 ชิ้น และ สามารถเปลี่ยนระหว่างการต่อสู้ได้ ดังนั้นผู้เล่นควรติดอาวุธอย่างละชนิดเอาไว้

 

เมื่อเล่นตัวเกมไปเรื่อย ๆ จะพบว่ามอนสเตอร์ภายในเกมมีแถบเลือดที่แตกต่างกันออกไปซึ่งเกี่ยวข้องกับส่วนต่าง ๆ ของร่างกาย และ จุดอ่อนของมันเอง ดังนั้นการเปลี่ยนอาวุธเพื่อสร้างความได้เปรียบ และ เพิ่มความเสียหายในการต่อสู้จึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

การทำลายชิ้นส่วนมอนสเตอร์

 

เรียกได้ว่าเป็นจุดเด่นของซีรีส์เกม MH กันเลยทีเดียว มอนสเตอร์แต่ละชนิดจะมีส่วนของร่างกาย หรือ ไอเทมที่มีแถบเลือดเป็นของมันเอง การทำลายส่วน ๆ นั้นจะทำให้เกิดความเสียหาย และ ทำให้มอนสเตอร์ล้มลง อีกทั้งยังยกเลิกการโจมตี และ ผู้เล่นจะได้รับของรางวัลพิเศษหลังจบการต่อสู้ อย่างไรก็ตามผู้เล่นจะไม่ได้รับวัสดุใด ๆ จากการทำลายชิ้นส่วนมอนสเตอร์ หรือ ทำให้แตกหัก แต่ยังคงได้รับไอเทมดรอปตามปกติ ไม่ว่าทำลายชิ้นส่วนหรือไม่ก็ตาม (สามารถใช้คำสั่ง Quick Finish เพื่อความสะดวก)

 

ระบบ Showdowns หรือ การประลอง

 

ในระหว่างการต่อสู้ มอนสเตอร์ของเราอาจะเข้าสู่ช่วง Showdown หรือ การประลองกับมอนสเตอร์ของศัตรู ผู้เล่นจะได้รับแจ้งให้กดปุ่มต่าง ๆ ซ้ำ ๆ เพื่อเอาชนะในการประลอง ซึ่งปุ่มที่ต้องกดก็จะมีความแตกต่างกันออกไปตามไพ่ที่เปิดได้ การชนะการประลองจะสร้างความเสียหายเพิ่มเติมให้กับศัตรู และ เพิ่มเกจ Kinship Gauge แต่ถ้าแพ้มอนสเตอร์ของเราจะได้รับความเสียหายอย่างมาก

 

เกจ Kinship Gauge, สกิล และ ระบบ Riding

เกจ Kinship Gauge จะแสดงอยู่ทางด้านล่างของจอ ใช้ในการจ่ายเพื่อใช้สกิล หรือ ทักษะบางอย่าง ซึ่งจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นระหว่างการต่อสู้ โดยจะมีการกระทำบางอย่างที่ช่วยเพิ่มให้เกจเพิ่มได้รวดเร็วขึ้นมากกว่าปกติ เมื่อเกจเต็มผู้เล่นจะสามารถใช้คำสั่ง “Ride” ในการต่อสู้ซึ่งจะฟื้นพลังชีวิตอย่างเต็มที่ และ เติมเต็มพลังชีวิตของ monstie ด้วยพลังชีวิตของผู้เล่นเอง อีกทั้งยังเพิ่มพลังโจมตี และ ป้องกัน ซึ่งสกิล Kinship สามารถเพิ่มระดับความแข็งแกร่งมากขึ้นได้ด้วยการชนะสู้ตัวต่อตัว

 

สกิล Kinship จะปล่อยพลังการโจมตีอันทรงพลังแก่ศัตรู ซึ่งสกิล Kinship ใน monstie แต่ละตัวนั้นจะมีความแตกต่างกันออกไป หากผู้เล่น และ monstie ใช้สกิล Kinship พร้อมกันจะทำให้เกิด Double Kinship อันทรงพลัง เมื่อใช้เกจ Kinship Gauge หมดลง หากหัวใจของผู้เล่นหมดลง หรือ แพ้การสู้ตัวต่อตัว 2 ครั้ง จะถูกบังคับตกลงจากหลัง monstie ทันที

 

อันดับการต่อสู้

 

ตลอดการต่อสู้ผู้เล่นจะได้รับคะแนนสำหรับสิ่งต่าง ๆ อาทิเช่น การใช้สกิลบางอย่าง การชนะสู้ตัวต่อตัว การทำลายชิ้นส่วนมอนสเตอร์ และ อื่น ๆ ยิ่งผู้เล่นได้แต้มมากเท่าไหร่ คะแนนการต่อสู้ก็ยิ่งดีมากขึ้นเท่านั้น และ มันยังส่งผลต่อของรางวัลที่ได้รับจากการต่อสู้อีกด้วย

 

จบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว และ การถอยกลับ

 

หากผู้เล่นมีเลเวลที่สูงกว่ามอนสเตอร์ที่กำลังเผชิญอยู่มาก จะได้รับตัวเลือกให้ “จบการต่อสู้อย่างรวดเร็ว” หรือ “Quick Finish” ซึ่งจะปรากฏขึ้นทางด้านล่างซ้ายของจอ และ จะได้รับ Rank S โดยอัตโนมัติ และ จะยังได้รับของรางวัลตามปกติ แต่ระบบนี้จะไม่ทำงานเมื่อเจอกับ Boss หรือ mini boss

 

ผู้เล่นยังสามารถเลือกที่จะถอนตัวออกจากการต่อสู้ได้ด้วยการเลือกตัวเลือก “ถอยกลับ” หรือ “Retreats” การเลือกตัวเลือกนี้ผู้เล่นจะไม่ได้รับไอเทมใด ๆ หลังจบการต่อสู้ถึงแม้จะทำลายชิ้นส่วนมอนสเตอร์ไปแล้วก็ตาม และ แน่นอนว่าใช้ไม่ได้กับการต่อสู้เมื่อเจอ Boss